เปียโนเปียโนมือสอง |
|
|
|
|
ในยุคแรกๆของอิเลคโทน(ชื่อนี้ตั้งขึ้นโดยบริษัทยามาฮ่าเริ่มผลิตหลังแรกรุ่น D-1 ตั้งแต่ปี 1959) ยังไม่มีเสียงอะไรมากนักนอกจากเสียงออแกนเป็นหลัก,ไม่มีต้องปรับอะไรยุ่งยากไม่มีลูกเล่นหรือจังหวะมากมายเหมือนสมัยนี้ ผู้เล่นในยุคนั้นต้องใช้ฝีมือล้วนๆในการเล่นเพลงยกไปไหนมาไหนสะดวก(ในรุ่นเล็กๆ)ไปเล่นกับวงดนตรีได้อย่างสบายๆในสไตย์ Solo แบบออแกนและนิยมเอาไปใช้ในโบสถ์ศาสนาคริสต์อีกด้วย. ของยามาฮ่าอิเลคโทนในรุ่นใหญ่จะมีระบบ Sequnce เข้ามาบางแล้วแต่ยังทำได้แค่โปรแกรมจังหวะล่วงหน้าเท่านั้น ในยุคนั้นอิเลคโทนตระกูล A,B,C,D,E เลข Serial สามตัวที่ฮือฮ่าในวงการดนตรีอิเลคโทนคือนั่นรุ่น C-605 ได้มีผู้นำเข้าห้องอัดเสียงบันทึกเพลงลูกทุ่งและไทยเดิมจนเทปขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนได้เข้ามาสู่วงการแล้วรุ่นนี้คุณเชื่อไม๊?ว่าปัจจุบันนี้โรงแรมบางแห่งในกรุงเทพยังเก็บรุ่นนี้ไว้ใช้งานอยู่เลยเพราะเสียงจังหวะ Rumba และ Mambo อันแสนไพเราะของมันไม่มีเครื่องดนตรีอิเลคโทนิคใดเรียนแบบได้ นักร้องรุ่นแย้มฝาโลงต่างก็มาร้องเพลงกับเครื่องรุ่นนี้เห็นบอกว่ามันเหมือนในเทปอ่ะ...ฮ่าาา...ฮ่า..ฮ่า...ฮ่า..ฮ่า... รุ่นนี้ตั้งแต่ FS-50 ขึ้นไป Volume สามารถเลื่อนขึ้น-ลงเองได้ตามที่เซ็ท Registration ไว้ล่วงหน้า(เล่นตอนกลางคืนเวลากดปุ่ม Registration ชุด Volume มันจะเลื่อนขึ้น-ลงเองคิดว่าผีหลอก)ในรุ่น FS-50, FS-70, FX-10, 20 และ FX-1 จะมีแผงไฟส่องสว่าง Panel ในตอนกลางคืนเปิดสวิทไฟออกมามันชั่งได้บรรยากาศที่โรแมนติกที่สุดเลยส่วน Expression (ที่เหยียบปรับดัง-เบาโดยใช้เท้าขวา)ทุกรุ่นมีอันเดียวมี FootSwitch (ชุดควบคุมจังหวะ)อยู่ทางด้านซ้ายเท่านั้น ตระกูลนี้พัฒนาให้มีทั้งระบบ Sequnce (เซ็ทจังหวะล่วงหน้าได้),มี Registration (เซ็ทเสียงล่วงหน้าได้)และเริ่มมีระบบเก็บข้อมูลลง Registration Pack RP-1รุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยามาฮ่าสร้างขึ้นในรูปลักษณ์แบบตู้ไม้ปิดไม่เห็นขาผู้เล่นเวลาหันหน้าเข้าหาคนดู อิเลคโทนทุกรุ่นตั้งแต่เริ่มต้นจนมาถึงตระกูล FAM ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เล่นเพลงได้อย่างดีแต่จังหวะยังตายตัวไม่สามารถสร้างจังหวะขึ้นมาใหม่ได้ ไม่สามารถเล่นเพลงที่มี Time Signature (อัตราส่วนจังหวะ)5/4 หรือเล่น 2/4 ระหว่างกลางเพลงที่เป็น 4/4 ได้รวมทั้งอะไหล่ก็เริ่มไม่มีจะใช้ซ่อมแล้วหากเกิดเสียขึ้นมาจึงไม่แนะนำให้เลือกซื้อครับ. ในตระกูล HS Series นี้ในรุ่นเล็กจะเริ่มจาก HC-1,2,3,4 HE-3,4,6 ในเมืองไทยนำเข้ามาแค่ HC-2, HE-3,4 มีระบบ MIDI มาตรฐานสำหรับต่อเข้าสัญญานเข้ากับคอมพิวเตอร์เหมือนรุ่น ME Series ฉะนั้นรุ่น HS Series นี้ถือว่าเป็นรูปลักษณ์แม่แบบของอิเลคโทนรุ่น Top ใหม่ๆมาจนถึงปัจจุบัน รุ่นนี้พัฒนาระบบเสียงขึ้นมาอีกขั้นคือใช้แบบ FM (Frequency Modulation) และมีระบบเสียงแบบใหม่(มีเฉพาะรุ่น HS-8)คือ AWM (Advanced Wave Memory) อยู่ด้วยเพราะฉะนั้นเสียงออแกนตั้งแต่ตระกูลนี้จนถึงปัจจุบันจึงไพเราะมากๆตระกูล HS Series นี้ถือว่าเป็นรุ่นที่มีเทคนิคลูกเล่นแพรวพราวที่สุดตั้งแต่ยามาฮ่าเริ่มสร้างอิเลคโทนมาเลยก็ว่าได้คือสามารถสร้างกลองจังหวะใหม่ๆขึ้นมาได้,สร้าง Accompaniment แบบ Rhythmic Chord(ตีคอร์ดแบบกีตาร์)ใหม่ๆได้,สามารถตั้ง Sequnce ล่วงหน้าได้มากมายทั้งโปรแกรมจังหวะล่วงหน้า,อัด Chord ล่วงหน้า,ตั้งเปลี่ยน Registration ล่วงหน้า,โชว์ชื่อ Chord ระหว่างการเล่นเพลงและยังสามารถอัดเพลงทิ้งไว้ในเครื่องแบบแยก Track อัดได้อีก 1 เพลงอีกด้วยยิ่งต่อกับ MDR-3 (Music Disk Recorder เป็น Option เสริมแยกซื้อต่างหาก)สามารถอัด Tack เพิ่มได้อีกก็คือชุด Accompaniment คือสามารถเป็นตัวโน้ต(Melody Line)ออกมาได้เลยแถมหวดกลองที่ Lower Keyboard อัดเพิ่มได้อีก Track นึง ตระกูลนี้มีระบบเก็บข้อมูลแบบ Ram Pack RP-3 และในรุ่น HX-1 ใช้ Ram Pack RP-5 รุ่น HS Series นี้ถ้าไม่ได้เอาไปเล่นพวกเพลงในสไตย์ Symphony Orchetra ถือว่าน่าซื้อใช้เป็นอย่างยิ่งเมื่อก่อนราคาเกือบ 2 แสนเดี๋ยวนี้ถ้าแบบพังๆคงไม่กี่ตังค์แต่ถ้าแบบเล่นได้ดีๆก็ต้องมีราคาหน่อยจากประสบการณ์ที่เจอมาเครื่องราคาถูกๆมักมาจากตามห้องเรียน คิดดูว่าแย่ขนาดไหนเพราะวันๆเจอตั้งหลายมือหลายเท้าเด็กน.รเข้ามาซ่อมกระทืบกันแทบทุกวันเป็นเดือนๆเป็นปีๆพังแล้วพังอีกซ่อมแล้วซ่อมอีกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ส่วนเครื่องมือสองดีๆต้องให้มืออาชีพคัดเลือกให้ครับได้มารับรองคุ้มค่าจริงๆไม่ผิดหวังแน่นอนสนใจโทรมาสั่งได้เลยนะครับ. ปกติแล้วอิเลคโทนรุ่นอื่นๆถ้าไม่มีคู่มือเรายังมั่วๆกดศึกษาหาทางปรับเองได้ แต่ถ้ามาเจอรุ่นนี้ไม่มีคู่มือมาอ่านละก็....เฮอะๆรับรองมั่วหาให้ตายก็ไม่สามารถปรับหรือเล่นมันให้ได้ดั่งใจได้เลย ถือว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบมาการใช้งานซับซ้อนมากที่สุด แล้ว Pack ก็ไม่สามารถใช้ร่วมกับรุ่น HS ได้อีกด้วยและก็เป็นรุ่นเดียวที่ยามาฮ่าผลิตออกมาแล้วมีปุ่ม Enter, ปุ่ม Cursor ที่อยู่ในชุด MENU SELECTปรับทั้ง Up, Down, Left, Right เหมือนเครื่องคอมด์พิวเตอร์ผู้เขียนเห็นทีแรกถึงกับอึ้ง!กิมกี่ไปเลยอ่ะครับ เพราะไม่รู้ว่าจะใช้เป็นทันเวลาแข่งไม๊เนี่ย?มีเวลาศึกษาแค่ 2 เดือนเอง พูดง่ายๆจะเล่นเพลงกับเครื่องนี้ต้องเซ็ทโปรแกรมใหม่กับตัวมันอย่างเดียวเท่านั้นเซ็ทเสร็จแล้วเอาโปรแกรมไปใช้กับรุ่นไหนก็ไม่ได้ แต่รุ่น HX-1 นี้ระบบเสียงสุดยอดกว่ารุ่น HS มากมีเสียงมากกว่า,มี Effects มากกว่า,มี Chord Acc.มากกว่าทั้ง Rhythmic และ Melodic Chord เหมือนรุ่น Fam,มี Keyboard Percussion มากกว่าและยังสามารถ Assist ไปไว้ใน Keyboard หรือ Bass ตัวไหนก็ได้และอื่นๆอีกมากมายระบบการเก็บข้อมูลผ่าน PACK RP-5 สามารถเก็บ Bulk Dump Dataได้มากถึง 4 Bank เก็บ Regist ได้เท่ากับ 16x4 = 64 Regist เลยทีเดียวแถมรุ่นนี้ยังมีระบบเซ็ท MIDI ปิดเสียง Lead ปิด Rhythm ไม่ให้คนอื่นเล่นถ้าไม่รู้จักวิธีเคลียร์ระบบเครื่องรับรองเลิกเล่นไปเลยครับ สมัยที่ผู้เขียนต้องใช้เครื่องรุ่นนี้แข่งอิเลคโทนรอบชิงชนะเลิศไม่มีใครช่วยสอนปรับเครื่องรุ่นนี้ให้เลย ผู้เขียนต้องช่วยตัวเองอ่านคู่มือศึกษาเองและต้องแข่งกับเวลาอีกด้วยกว่าจะเข้าใจปาเข้าไปเป็นเดือน ในขณะเดียวกันคู่แข่งนอกจากจะมั่วหาปรับกันเองแล้วถึงกับก็เอาพวกโปรดิ๊วเซอร์,พวกโปรแกรมเมอร์,พวกเซียนในการปรับเครื่องดนตรีทั้งหลายมารุมมะตุ้มปรับเครื่องนี้กันเจ้าละหวั่น สุดท้ายเดินหน้าละห้อยมาถามผู้เขียนว่า"พี่ครับทำไงดีครับเซ็ท Sequnce เสร็จแล้วเปิด Run ออกมาเหยียบเบสไม่มีเสียงง่ะช่วยบอกวิธีหน่อยครับ" ผู้เขียนเห็นว่าเขาเป็นคู่แข่งเรา ถ้าเราไม่บอกวิธีเดี๋ยวเล่นแพ้ไปจะหาว่าแพ้แต่วิธีการใช้เครื่องก็เลยบอกไปว่า"ระบบ Sequnce มัน Run เหมือน ME-200, ME-300 อ่ะ" แค่นี้พวกคู่แข่งก็อ๋อเลย ฉะนั้นตอนแข่งขันชิงแชมป์ในประเทศก็สู้กันด้วยฝีมืออย่างเติมที่แล้วชมการแข่งขันอิเลคโทนในวันนั้นได้เลยอย่างเด็ดขาดสมศักดิ์ศรีได้เป็นตัวแทนไปแข่งอิเลคโทนชิงแชมป์เอเซียต่อที่ประเทศอินโดนิเซียแล้วก็ได้รางวัล "OUTSTANDING PERFORMERS" กลับมาอีกด้วยครับ. ซึ่งมีแชมป์อิเลคโทนประเทศไทยน้อยคนนักที่จะได้รางวัลระดับเอเซียจากต่างประเทศกลับมา ส่วนใหญ่ตอนจะไปหนะดังตอนกลับมาเงียบครับ ต้องมาจัดแข่งระดับเอเซียในประเทศไทยถึงจะได้รางวัล...เฮอะๆ!สำหรับผู้เขียนถ้าได้คงไม่ภูมิใจซักเท่าไร ปีนั้นเป็นปีที่ผู้เขียนส่งน.รเข้าแข่งขันในรุ่นเล็กและรุ่นกลางด้วยทั้งครูและลูกศิษย์แข่งขันบนเวทีเดียวกันแต่คนละรุ่นเท่านั้น ไม่มีครูคนไหนเขากล้าทำกันแบบนี้หรอกครับถ้าไม่แน่จริง แต่นี่ผู้เขียนแสดงให้ลูกศิษย์ดูว่านักอิเลคโทนที่สุดยอดในเมืองไทยเขาเล่นกันอย่างไง รุ่น HX-1 นี้ตอนนี้มีผู้เขียนรู้วิธีปรับได้คนเดียวเท่านั้นราคาเครื่องใหม่อยู่ที่ล้านกว่าบาทแต่เดี๋ยวนี้ถ้าสภาพดีๆผมหาให้ไม่แพงครับ.***** รุ่นใหญ่สุดยังเป็นรุ่น ELX-1อยู่ รุ่นที่หน้าซื้อไว้เล่นก็คือรุ่น ELX-1,EL-90 กับ EL-87 ทั้ง 3 รุ่นนี้เป็นรุ่นตัวท๊อปหน้าตาเหมือนกันผิดกันที่รุ่น ELX-1มีเสียงมากกว่าจำนวนคีร์ที่ชั้น Upper,Lower มากกว่า Pedal เป็บแบบ Full Bass ส่วน EL-90 กับ 87 เหมือนกันต่างกันที่เครื่องเล่นดีสของ EL-87 สามารถก๊อปปี้ข้อมูลข้ามแผ่นได้ อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าตระกูลนี้คือ "The New Yamaha EL-Series Line Up" ฉะนั้นสเปคเครื่องจะแยกประเภทใหญ่ๆออกเป็น 4 Line คือ 1.รุ่นเล็กได้ชื่อว่า "Entry Level Model" ได้แก่รุ่น EL-3,7,15,25,100 เป็นต้น 2.รุ่นขนาดกลางชื่อว่า "Mid Line Model" ได้แก่รุ่น EL-27,200,37,40,400,60 เป็นต้น 3.รุ่นใหญ่ชื่อว่า "Top Line Model" ได้แก่รุ่น EL-57,500,87,70,90,700,ELX-1 เป็นต้น และ 4.รุ่นใหญ่พิเศษชื่อว่า "Super Top Line Model" ได้แก่ EL-900,900m,ELX-1m เป็นต้นรุ่นใหญ่พิเศษจะกล่าวในตอนต่อไปว่ามันเหนือกว่ารุ่นอื่นอย่างไร เมื่อก่อนรุ่น ELX-1 ราคา 550,000 บ.(ไม่รวมลำโพงคู่)ส่วน EL-90 ราคา 319,000 บาทและ EL-87 ราคา 245,000 บ.เดี๋ยวนี้ถ้าแบบพังๆคงไม่กี่ตังค์อีกตามเคยแต่ถ้าแบบเล่นได้ดีๆก็ต้องมีราคาหน่อยอีกเช่นกันจากประสบการณ์ที่เจอมาเครื่องราคาถูกๆมักมาจากตามห้องเรียนอีกตามเคยถ้าอยากได้เครื่องมือสองดีๆต้องให้มืออาชีพคัดเลือกให้ครับได้มารับรองไม่ผิดหวังแน่นอนสนใจโทรมาสั่งได้เลยนะครับ. รุ่น EL-100,200,400,500,700,และ EL-900 รุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยามาฮ่ายังคงใช้รูปลักษณ์โครงสร้างบอดี้ไม้อัดเหมือนแม่แบบเดิมคือ HS-8 รุ่นเลข 3 ตัวนี้สามารถสร้าง Accompaniment แบบ Rhythmic Chord(ตีคอร์ดแบบกีตาร์)ขึ้นใหม่ได้เหมือน HS-8 และได้พัฒนาระบบ MIDI ให้เป็นแบบ GENERAL MIDI,XG รุ่นนี้ตั้งแต่ EL-100 ขึ้นไปมีระบบเสียงและกลองเหมือน ELX-1 (เฉพาะ EL-100 ระบบ Sequnce เป็นแบบ Receive)ซึ่ง MDR ของตระกูลนี้สามารถเล่นแผ่น Floppy Disk กับเครื่อง EL Series ด้วยกันได้ทุกรุ่นมีระบบ Convert File เพลงให้เป็นระบบ XG เอาไปเปิดฟังที่คอมพิวเตอร์หรือเปียโนไฟฟ้าหรือเครื่องดนตรีอะไรก็ได้ที่ใช้ระบบ GENERAL MIDI,XG ได้หมดเฉพาะรุ่นตัวท๊อป EL-900 รุ่นใหญ่พิเศษ "Super Top Line Model" นอกจากจะมีระบบเสียงแบบ FM (Frequency Modulation) และมีระบบเสียง New AWM (Advanced Wave Memory) ผสมกันแล้วยังมีเทคโนโลยีระบบเสียงแบบใหม่คือ VA (Virtual Acoustic) เข้ามาอีกด้วยยังไม่พอยังมีระบบ Touching แบบใหม่คือ Horizontal Touch สามารถขยี้เสียงที่ Keyboad ได้เลยเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เครื่องรุ่นปัจจุบัน(ELS-01C)ก็ใช้ระบบนี้เช่นกัน รุ่น EL-900และรุ่น EL-900m เป็นรุ่นถือว่าที่หน้าซื้อเก็บไว้มากที่สุดเพราะรุ่นนี้ยามาฮ่าผลิตมาได้ดีสุดยอดทั้งตัวเครื่องที่ทนทานทั้งมีระบบเสียงกระหึ่มด้วยระบบ Power Amplifiers ขนาด 216 W. เติมๆและเทคโนโลยีที่เล่นเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเมื่อก่อน EL-900 ราคาแพงกว่า EL-90 เป็นแสนเลยคือราคา 405,000 บาทเดี๋ยวนี้ถ้าแบบพังๆคงไม่เกินแสนถ้าแบบเล่นได้ดีๆก็ต้องราคาสูงกว่านี้จากประสบการณ์ที่เจอมาเครื่องราคาถูกๆมักมาจากตามห้องเรียนอีกตามเคยครับถ้าอยากได้เครื่องมือสองดีๆต้องให้มืออาชีพคัดเลือกให้ครับได้มารับรองคุ้มค่าจริงๆไม่ผิดหวังแน่นอนสนใจโทรมาสั่งได้เลยนะครับ. ถ้าเจอเครื่อง EL-900m มือสองที่อยู่ในสภาพดีถือว่าสุดยอดที่สุดครับ แต่ที่ผู้เขียนเจอะเจอมาหลายต่อหลายเครื่อง(ตอนที่มีคนให้ไปทดสอบเพื่อฝากขาย)กับมีสภาพที่แย่กว่า EL-900 ธรรมดาซะอีกเพราะอะไรรู้ไม๊?.....เพราะเมื่อมีการ Update เครื่องให้มันดีขึ้นย่อมถูกใช้งานหนักขึ้นเป็นธรรมดา จากที่กระทืบเท้าเดียวเพิ่มเป็น 2 เท้าอะไรเงี่ยครับ ฮ่าาา....ฮ่าๆๆๆๆๆ ชุด Pedal เงี่ยพอผมทดสอบเหยียบลงไปมันทรุดแทบติดพื้นเลยอ่ะ บางอันหลวมเกือบจะจับหมุนได้เลยด้วยซ้ำ ยังไม่รวมถึงคีร์บอร์ดบน,ล่างที่กดกันจนมีรอยเล็บขึ้นลายพร้อยระบบ Touching เสียหายไปเกือบหมด ตั้งแต่ทดสอบ EL-900m มือสองที่มีคนมาฝากขายจนป่านนี้ยังไม่เจอเครื่องที่ผ่านการทดสอบเลยซักเครื่องเดียว มีแต่เครื่องช้ำๆน่วมๆใกล้พังทั้งนั้นเลยอ่ะครับ ใครหลงเชื่อพวกลิ้นหลายแฉกหลอกขายราคาถูกๆซวยเลยนะครับเจอค่าซ่อมแบะๆแค่ Mainboard กับหน้าจอ LCD เสียก็ปาเข้าไปเกือบ 7 หมื่นแล้วนะครับเลยค่าซื้อเครื่องไปแล้วล่ะ แล้วถ้าต้องเปลี่ยนคีร์บอร์ดทิ้งหมดทั้งบน,ล่าง+ ชุดเบสด้วยคิดดูมันจะคุ้มไม๊? ผมแนะนำให้นะ....ถ้าอยากได้ EL-900m ดีๆควรเลือกซื้อ EL-900 มือสองแบบสภาพแจ๋วๆก่อนแล้วค่อยถ้าทางซื้อชุด Update Kit มาใส่จะสุดยอดกว่านะครับจะหาจากที่ไหนคิดว่าคงไม่ยาก เพราะมันเป็นแค่แผ่น Board วงจรแผ่นเล็กๆเท่าฝ่ามือเท่านั้นเองติดตั้งเข้าไปในเครื่องง่ายมากเลยครับ อยากได้ EL-900 มือสองสภาพเยี่ยมโทรหาผมเดี๋ยวจัดให้. ส่วนรุ่นท๊อป ELS-01C, ELS-01CU บอดี้เป็นเฟรมโลหะ,เปลี่ยนสี Panal และปุ่มกดต่างๆใหม่เป็นสีบรอนด์หน้าจอ LCD เป็นแบบสีระบบ Touch Screen นอกนั้นก็ยังคงรูปลักษณ์เหมือนรุ่นแม่แบบ(HS-8)อยู่ดีนั่นคือจำนวน Keyboard บนชั้น Upper, Lower,Pedal เท่ากันมี Expression 2 ชุดมี Footswitch ซ้าย,ขวาเหมือนเดิมใครว่า HS-8 ตกรุ่นใช้เรียน-เล่นไม่ได้ลองดู Demon อิเลคโทนรุ่น HS-8 ที่ผู้เขียนได้เล่นไว้จะเห็นได้เลยว่าเครื่อง HS Series เล่นเพลงได้ดีขนาดไหน ในรุ่นตัวท๊อปคือรุ่น ELS-01Cและ ELS-01CU เอาเทคโนโลยีของ EL-900 มาใช้คือ Horizontal Touch แล้วเติมเสียงเข้าอีกเป็น 500 กว่าเสียงส่วนในชุดจังหวะและสไตย์ของ Accompaniment ของรุ่นนี้เรียกว่ามีแบบสำเร็จรูปมากมายที่สุดตั้งแต่ยามาฮ่าสร้างมาอิเลคโทนก็ว่าได้มีทั้งปุ่ม Intro-Ending(ปุ่มนี้เคยมีใช้กับรุ่น HS Series กับ EL Series) หลายแบบ,มีทั้งปุ่ม Break(มีใช้ในอิเลคโทน Series A,B,C,D, FAM และ Series HX),มีทั้ง Main/Fill In ที่เป็น Variationในตัว, มีทั้ง Registration Menu (สไตย์ทำนองสำเร็จรูป)ฝังไว้ในเครื่องเป็นร้อยๆแบบเลยแถมเพิ่มระบบ MIDI GS ของ Roland เข้าไปสามารถต่อ Internet Download สไตย์ในการเล่นเพลงในแบบต่างๆมาเติมได้อีกแต่ระบบ Power Amplifiers ลดลงเหลือแค่ร้อยกว่าวัตต์เท่านั้นน้อยกว่า EL-900 ครึ่งนึงราคาตอนนี้เกือบ 4 แสน ถามว่าดีไหม?ถ้ามีเงินก็ซื้อไปเถอะครับ แต่สำหรับผมชอบ EL-900 มากกว่า รุ่นนี้ไว้รอมันตกรุ่นค่อยซื้อครับ(ตอนนี้มือสองก็เริ่มมีขายแล้วนะครับติดต่อผมได้เลยอีกเหมือนกัน) เพราะเทคโนโลยีไม่ทิ้งกันเท่าไรเปลี่ยนแต่รูปทรงและวิธีการปรับเท่านั้น. ส่วนรุ่นท๊อปล่าสุดตอนนี้ ELS-02C ยังคงบอดี้เดิมแต่เปลี่ยนสีโครงเหล็กเป็นสีบอร์นเข้มไม้ที่แปะขอบเป็นสีงาช้างส่วน Panal และปุ่มกดต่างๆเป็นสีบรอนด์หน้าจอ LCD เป็นสีดำระบบ Touch Screen เหมือนเดิม แต่มีการ update เพิ่มเติม Registartion Menu เพิ่มแบบ x 2 คือพอกดปุ่มขึ้นมาจะมีจะมีหน้า page ให้เลือก 01 กับ 02 มีเสียงเพิ่มเติมอีกมากมายนับแล้วในชุดเสียง AWM (Advanced Wave Memory) มี 975 เสียง ใน VA (Virtual Acoustic) Voice มีอีก 94 เสียงและมีระบบเสียงแบบใหม่ขึ้นมาอีกเรียก Super Articulation Voice มีอีก 124 เสียงรวมแล้วเป็นพันเสียงเลยนะครับ เยอะจนกระทั่งต้องมีระบบ Voice Link เข้ามาช่วยในการหาเสียงที่ตั้งไปแล้วต้องการจะกลับมาแก้ไขใหม่จะได้หาได้ง่ายขึ้น ที่ชุด Rhythm Pattern Program ใน Desired Drum Kit ได้มีการเพิ่มเติมชุด Kit อีกหลายชุด(ขี้เกลียดนับแล้วว่ะ) แถมในชุด Registartion Memory ยังเพิ่มเติมจาก 16 เป็น 80 Registartion Memory โดยแบ่งออกเป็น Bank A-E ถือว่าเป็นรุ่นที่มีระบบใช้งานในการทำเพลงสุดยอดที่สุด แต่ก็ต้องรู้จักการตั้งและรู้วิธีการเล่นที่ถูกต้องด้วย มีคุณพ่อคุณแม่ของลูกศิษย์(ลูกศิษย์คนนี้ปัจจุบันเป็นครูสอนแล้ว)มาขอร้องมาจ้างให้ช่วยตั้งเพลงอยู่เพลงนึง ผู้เขียนใช้เวลาตั้งเซ็ทโปรแกรมเพลงนี้นานถึง 50 กว่าช.ม กว่าจะเสร็จรวมเวลาปาเข้าไปเดือนครึ่งลองฟังดูครับหรืออันนี้ก็ได้สุดยอดครับ ซื้อไปแล้วงงอะไรก็มาเรียนวิธีการใช้ได้ครับ ผู้เขียนเปิดสอนวิธีการใช้อยู่. ไม่เหมือน ELB-01 ถ้าคนที่ไม่เคยใช้ M.D.R ของรุ่น EL-Series มาก่อนคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าคนที่เคยใช้ M.D.R มาสาระพัดรุ่น(ตั้งแต่ M.D.R-3โน้นอ่ะครับ)อย่างผมต้องมาปรับวิธีการใช้ใหม่ต้องกดปุ่ม M.D.R แล้วมากดเลือกปุ่ม A,B,C,D มากดปุ่ม PAGE ร่วมกับหมุน DATA CONTROL Dial เพื่อทำรายการแล้วค่อยมากดเลือกปุ่มที่หน้า M.D.R (ในกรณีที่อัดที่ละ Part)อีกทีกว่าจะอัดเพลงได้ยุ่งตายห่าว่ะ แต่คิดว่าถ้าใช้บ่อยๆก็คงปรับตัวไม่ยาก ฉะนั้นถ้าจะเลือกใช้ ELB-01 ก็ดีครับ หรือจะเป็น EL-100 ใช้เรียน, ใช้เล่นงานมืออาชีพก็ประหยัด สนใจเครื่องมือสองทั้ง 2 รุ่นนี้โทรหาผมครับ อย่าไปหาที่ไหนเพราะมีย้อมแมวเอาเครื่องถูกน้ำท่วมมาขายก็เยอะ เอาเครื่องที่ถูกใช้งานมาอย่างหนักมาแหกตาขายก็เยอะ โม้กันบอกว่าเครื่องบ้านๆไม่รู้ใครกระทืบมาบ้างถ้าไม่ใช่เซียนจริงๆดูไม่ออกอ่ะครับ แต่สังเกตดีๆราคามันถูกผิดปกติต่อได้อีกเยอะครับ คิดดูของใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้หลังนึงราคาเกือบแสนเอามาขายกันไม่ถึง 2-3 หมื่นซื้อกันไม่รู้สึกเสียวววว...กันบ้างหรือ เครื่องผลิตที่อินโด.นะครับ ถ้าเลือกเครื่องมือสองไม่ดีเอาราคาถูกๆเป็นหลักมีหวังได้ซ่อมมากกว่าเล่นแน่ครับ นี่คือตัวอย่างเครื่องมือสองที่ผมเลือกมาครับ รุ่น EL-100, รุ่น ELB-01. ใครที่เคยดูญี่ปุ่นมา Demon จะเห็นได้ว่าเครื่องอิเลคโทนทุกตระกูลเขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมทุกรุ่นเพราะเขาใช้เครื่องเป็นนี่คือหัวใจของการเล่นอิเลคโทนนะครับย้ำ"ปรับเป็น,รู้วิธีเล่น,รู้วิธีใช้เป็น"ทุกรุ่นมันเล่นได้ไพเราะหมดอ่ะครับ มีแต่พวกมันสมองน้อย,พวกครูด้อยปัญญาหรือแกล้งโง่ก็ไม่รู้บอกว่าเครื่องนี้มันรุ่นเก่าแล้ว,รุ่นนี้ตกรุ่นลงไปนานแล้วต้องรุ่นนั้นรุ่นนี้เท่านั้นถึงจะเล่นได้ใครอยากเชื่อจะไปเป็นเหยื่อให้เค้าฟันก็ตามใจ ใครที่ได้ดู Demon ยามาฮ่าอิเลคโทนรุ่น HS-8 ที่ผู้เขียนได้เล่นไว้จะเห็นได้เลยว่าเครื่อง HS Series เล่นเพลงได้ดีขนาดไหนผมฟันธงได้เลยว่าพวกครูด้อยปัญญาเหล่านั้นคงบ่ มิไก๊(ก็เลยบอกว่ามันตกรุ่น)เพราะเดี๋ยวนี้เครื่องอำนวยความขี้เกียจมันเยอะครับเสียบทั๊มไดร์ฟเอย,ดาวโหลดมา Update เอยเลยเป็นง้อยทำเพลงเองไม่เป็นอย่าไปถือสาเลยนะครับ แต่ต้องไม่หลงเชื่อคำพูดเหล่านั้นเพราะความจริงที่ถูกต้องคือถ้าคุณรู้วิธีการใช้,รู้วิธีการปรับ,รู้วิธีการเล่นเครื่องยามาฮ่าอิเลคโทนเป็นซะอย่างรุ่นไหนก็เล่นได้ไพเราะทุกรุ่นอ่ะครับ...จำเอาไว้...
|
ถามว่ามีความจำเป็นด้วยหรือที่ต้องซื้อแต่เปียโนใหม่เท่านั้น? จริงอยู่ที่เปียโนใหม่เป็นเปียโนที่สมบูรณ์แบบเหมาะแก่การใช้เล่นอย่างครบถ้วน แต่บางยี้ห้อราคามากแพงเพราะบวกค่า Brands + ค่านิยม + ค่าโฆษณาเข้าไปด้วยเกินกว่าที่ชนชั้นกลางลงมาซึ่งเป็นประชาชนส่วนมากในประเทศไทยยากที่จะหาซื้อมาใช้ได้ ยิ่งยุคเศษฐกิจเดี๋ยวนี้แล้วหมดสิทธิ์ครับ พวกคนระดับที่มีฐานะส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ซื้อเอาไปเล่นจริงจังอะไร เอาไปเป็นเฟอร์นิเจอร์ซะมากกว่า แกรนด์เปียโนหลังละเป็นล้านถูกเอาไปอยู่ในแบบตกแต่งบ้านเศรษฐีบางคนตั้งโชว์ทิ้งไว้กินขี้ฝุ่นหรือบางคนซื้อแค่เอาไปใส่แผ่นให้มันเล่นให้ฟังแบบนี้เรียกว่าคนอยากเล่นไม่มีปัญญาซื้อ คนมีปัญญาซื้อแต่ไม่มีปัญญาเล่น มีกลุ่มคนที่มีฐานะไม่มากนักที่จะมีทั้งกำลังซื้อและเวลาเล่น ยิ่งหลายๆสิบปีที่ผ่านมาเปียโนใหม่บางยี้ห้อในรุ่นเล็กๆที่มีความสูงไม่เกิน 120 ซ.มในบางรุ่นทางประเทศเจ้าของแบรนด์ไม่ได้ผลิตเองให้ประเทศอื่นผลิตให้บางรุ่นที่ผลิตออกมาในบางปีคุณภาพเสียงใช้ได้แต่ในบางปีที่ผลิตออกมาเสียงไม่ค่อยประทับใจซักเท่าไร แต่ที่เห็นได้ชัดๆคือราคามันแพงขยับขึ้นทุกปี. ฉะนั้นจากประสบการณ์การเล่นเปียโนมา 20 ปีกว่าทำให้เราเห็นปัญหาตรงนี้เราจึงมีบริการเลือกและเฟ้นหาเปียโนมือสองที่มีคุณภาพดีไว้บริการลูกค้าในราคาไม่แพง ซึ่งเปียโนมือสองผมแบ่งออกเป็น 3 Grade แล้วแต่งบประมาณของแต่ละคน ซึ่งถ้าจะให้ผมแนะนำควรเลือกซื้อแบบ Grade A,B จะดีมี่สุด เพราะเปียโนมือสอง Grade C คือเปียโนที่ญี่ปุ่นทิ้งแล้วเป็นเปียโนขยะที่เอามา Recycle, Rebuild, Recondition หรือ Re ใช้ชื่ออะไรมาจากที่ไหนก็แล้วแต่อย่างดีสุดมีเพียง 10 % เท่านั้นที่ทดสอบผ่านอย่างเช่นหลังนี้คือ YAMAHA PIANO U1E รุ่นนี้ปีที่ผลิต '1965-1970' ความสูง 121 cm. คิดดูว่ากี่ปีแล้ว สภาพเปียโนหลังนี้ทดสอบผ่านที่ 65 % (Grade C ดีสุดไม่เกิน 70 %) ส่วนอีก 90 % ที่หมดสภาพการเป็นเปียโนแบบถาวรมีเกลื่อนกลาดขายราคาถูกสุดๆต่อได้เยอะๆมีประกันหลายปี, จูนฟรีเพียบมีทั้งแบบปล่อยให้เช่าเล่นให้นิ้วเน่าถูกใจผู้ไม่มีความรู้แต่ชอบของถูกอยู่ตอนนี้เป็นอย่างยิ่ง ถ้าใครชอบก็แล้วแต่บุคคลนะครับ. มีบทความที่โจมตีเปียโนมือสองหลายบทความก็โจมตีเปียโนมือสอง Grade C เนี่ยละครับ แต่ถ้าใครมีงบน้อยเปียโนมือสอง Grade C ก็ยังพอเป็นทางเลือกให้ใช้ได้แต่ต้องเลือกเป็นจริงๆนะครับอันนี้ขอบอกเลยว่ายากมากๆขนาดอาจารย์เปียโนบางคนที่มีประสบการณ์น้อยๆยังโดนหลอกเลยครับ สู้เพิ่มงบประมาณอีกนิดหน่อยได้เปียโนมือสอง Grade A,B ใช้จะแจ๋วกว่าซื้อทีเดียวจบครับแถมถูกกว่าเปียโนใหม่อีกด้วย สนใจโทรมาคุยกันได้ครับ. |
|
1.โทนเสียงที่ยังคงชัดเจนเหมือนการร้องเพลง (Singing Tone) นั่นคือเมื่อกดนิ้วลงบนแป้นคีร์โน๊ตตัวไหนไม่ว่าเสียงสูงหรือต่ำต้องเป็นเสียงโน๊ตตัวนั้นอย่างไม่ผิดเพี๊ยนและเสียงนั้นจะมีมิติที่กว้างและดังกังวาลอยู่นาน(กดคีร์ตอนที่เหยียบ Damper Pedal / Sustain Pedal / Loud Pedal ชื่อเดียวกันนั่นก็คือตัว Pedal ขวาสุดที่เมื่อเหยียบแล้วเสียงจะกังวาล)แม้จะยกนิ้วออกแล้วก็ตาม ส่วนที่เป็นเสียงต่ำ (Base Section) เสียงต้องกระหึ่มระรัวมีพลังเหมือนเสียงฟ้าฝนคำราม ส่วนที่เป็นเสียงกลาง (Middle Section) เสียงต้องดังกังวาน, หนักแน่น ส่วนที่เป็นเสียงสูง (Treble Section) เสียงต้องชัดเจน, เข้ม, สดใสซึ่งถ้ากล่าวโดยรวมๆแล้วเสียงเปียโนมือสองที่ดีต้องยังคงมีเสียงที่ชัดเจนแบบนุ่มนวลแต่หนักแน่นอย่างมีพลังกังวาลไกลกระจายไปอย่างสม่ำเสมอครับ ไม่ใช่เสียงชัดเจนแบบใสโจ๋งแจ๋งเหมือนขิม, เหมือนเครื่องสายจะเข้นะครับ ฉะนั้นการเลือกเปียโนมือสองที่ดีมีคุณลักษณะเสียงให้ได้ดังกล่าวนี้เป็นเคล็ดลับส่วนตัวของผมเองที่สั่งสมประสบการณ์การเล่นเปียโนมา 20 กว่าปีควบคู่กับอิเลคโทนมาโดยตลอด เปียโนมือสองที่ดีถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนคนร้องเพลงอ่ะครับ ถ้านักร้องนั้นยังคงมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงอยู่ไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียนเสียงย่อมดังสดใสชัดเจนอย่างมีพลังไม่แตก, แหบแห้งหรือร้องไม่ค่อยได้ยินเสียง แต่ถ้านักร้องนั้นอยู่ในสภาพที่ร่างกายไม่สมบูรณ์มีทั้งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ(เช่นไซนัสอักเสบ..หุ..หุ), เจออุทกภัยมา, ประสบอุบัติเหตุหรืออายุมากหมดสภาพจนไม่สามารถเยียวยาให้กลับมาดีได้อีกเสียงที่ออกมาย่อมเป็นไปตามสภาพเช่นร้องไม่ค่อยได้ยินเสียง, แหบแห้ง, กระป๋องกระแป๋ง, ทึบ, ทู้หรือเหมือนไม้ไผ่แตก. หมายเหตุ คำว่าเสียงที่ชัดเจนแบบนุ่มนวลแต่หนักแน่นหมายถึงถ้าเป็นศัพท์ของทางกีตาร์ก็จะเรียกว่าเสียงมันอ้วน แต่ถ้าเป็นศัพท์ของทางช่างเปียโนบางคนก็จะเรียกว่าเสียงมันหนา ส่วนผมเป็นนักเล่นอิเลคโทนเรียกว่าเสียงมันแน่นครับ แล้วที่มันหนักแน่นอย่างมีพลังหมายถึงตอนที่จังหวะของ Mammer Head (หัวฆ้อน)ตีไปที่สายแล้ว Soundboard (แผ่นขยายเสียง)กระจายเสียงออกมานั่นมันเกิดมิติที่กว้างมากๆฟังแล้วอิ่มเอิบเข้าไปถึงความรู้สึก ยิ่งเล่นก็ยิ่งไพเราะเล่นนานเท่าไรก็ไม่รู้จักเบื่อ(นั่งเล่นเป็น 4-5 ช.มแบบไม่รู้ว่ามันนั่งเล่นไปได้ยังไงอะไรเงี่ย).....ไม่ใช่เล่นไปซักพักนึงเอียนกับเสียงแหลมๆของเปียโนมือสองราคาถูกๆห่วยๆบางหลัง. 2.นิ้วสัมผัส (Touching) น้ำหนักของคีร์เปียโนมือสองที่กดต้องไม่เบาไม่หนักและไม่หนืดจนเกินไป เล่นได้ทุกรูปแบบทั้งแบบช้า (Grave), เร็ว (Prestissimo), รัว (Tremolo), รูด (Glissandos) โดยที่กลไกและเสียงต้องไม่สะดุดติดขัด ตอบสนองการเล่นแบบดัง (Fortissimo) - เล่นแบบเบา (Pianissimo) เล่นแบบค่อยๆดัง (Crescendo) เล่นแบบค่อยๆเบา (Diminuendo) และแบบอื่นๆอีกมากมายได้อย่างชัดเจน นี่แค่เกรินให้ฟังคร้าวๆนะครับแค่ 2 ข้อนี้ฟังดูเหมือนง่ายๆแต่ตอนเลือกจริงๆไม่หมูอย่างที่คิดเพราะเปียโนมือสองที่ดีเฉพาะ 2 ข้อนี้ยังมีปลีกย่อยอีกเพียบที่ต้องดูและทดสอบอีกเยอะนะครับ แล้วยังมีข้อที่รองๆลงมาในการเลือกดูเปียโนมือสองอีก อย่างเช่นกลไกภายใน, บอดี้ภายนอกและอื่นๆเป็นต้นฟังตัวอย่างเสียงเปียโนมือสองที่ดีครับ. หากเปียโนมือสองหลังใดที่ผมทดสอบคุณสมบัติสำคัญ 2 ประการแรกนี้ไม่ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ผมก็จะไม่ดูหัวข้อที่รองๆลงมาอื่นๆอีกต่อไปถึงแม้ว่าเปียโนมือสองหลังนั้นจะมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมรับประกันหลายปีจูนฟรีไม่อั้นก็ตาม เพราะผมจะถือว่าเปียโนมือสองหลังนี้เป็นเปียโนขยะที่หมดสภาพการเป็นเปียโนที่ดีไปแล้วไม่คุ้มค่าที่จะซื้อเอาไปเล่นแล้วครับ แต่เปียโนมือสองที่มีการนำเข้ามาขายอยู่ตอนนี้ซิ! ส่วนมากเป็นเปียโนขยะที่ญี่ปุ่นทิ้งแล้วอายุก็ราวๆ 40-50 กว่าปีอย่างเช่น YAMAHA PIANO U1D, U3C, U3D '1959-1965' คิดดูว่าอายุเท่าไรแล้ว? พวกที่เอามาขายเก็งกำไรอยู่ตอนนี้แทบจะได้มาฟรีๆด้วยซ้ำไปแล้วก็เอามา Recycle, Rebuild, Recondition, Regulation, Repair, Re...ใช้ชื่ออะไรจากที่ไหนก็แล้วแต่บวกราคากันเป็นแสนๆ(ในยุคแรกๆ)แล้วแข่งกันรับประกันจำนวนปีมากๆ, แข่งกันรับจูนฟรีจำนวนครั้งกันเยอะๆเพื่อล่อใจลูกค้าให้ซื้อ ตอนนี้มีร้านเยอะขึ้นก็ยิ่งแข่งกันด๊ำราคาเปียโนขยะญี่ปุ่นกันใหญ่เห็น YAMAHA PIANO U1 ด๊ำราคากันเหลือไม่ถึงเจ็ดหมื่นบ้าง บางหลังขายกันไม่ถึงห้าหมื่นซึ่งปกติตอนนี้เปียโนรุ่นนี้ของใหม่ราคาอยู่ที่เกือบสามแสน คิดดู.....ถ้าเปรียบเทียบเหมือนคนร้องเพลงจะมีสภาพร่างกายเป็นอย่างไร?. ผมไม่ได้ว่าเปียโนมือสองแบบขยะขนิดนี้ไม่ดีไปซะหมดแต่มีเปียโนมือสองขยะบางหลังเท่านั้นที่ยังอยู่ในสภาพพอใช้ได้คิดเป็นเปอร์เซ็นแล้วมีเพียง 10 % เท่านั้นอย่างเช่นหลังนี้ลองฟังเสียงดูครับผมเจออยู่หลังเดียวในหลายๆสิบหลังที่ขายอยู่เกลื่อนกลาดในเมืองไทยตอนนี้ ส่วนอีก 90% ของเปียโนมือสองแบบขยะเหล่านี้หมดสภาพการเป็นเปียโนที่ดีแล้ว เปียโนมือสองแบบขยะชนิดนี้ไม่ว่าจะเอาไป Re...ใช้ชื่ออะไรจากที่ไหนก็แล้วแต่ก็ไม่สามารถทำให้เสียงและสัมผัสของเปียโนมือสองแบบขยะชนิดนี้กลับมาดีอย่างเดิมได้อีก ผมเคยเจอเปียโนมือสองแบบขยะนี้มากับตัวเองตามที่ต่างๆที่เคยไปดู เสียงเปียโนมือสองแบบขยะพวกนี้บางหลังจะมีเสียงที่แหลมเหมือนเหล็กกระทบกันบ้าง, บางหลังเสียงคล้ายขิม, บางหลังเสียงเหมือนเครื่องสายจะเข้, บางหลังเสียงกระป๋องกระแป๋ง, บางหลังเสียงแปร่งๆเหน่อๆบ้าง, บางหลังเสียงอุบ, ทึบเป็นใบ้(หมายถึงได้ยินเสียงของเปียโนอยู่แต่ในบอดี้ไม่กังวาลออกมา) อุบ, ทึบเป็นใบ้ยังไม่พอๆเราพยายามกดที่คีร์แรงๆเพื่อให้มันเปล่งเสียงออกมากลับได้ยินเสียงแหลมๆปะแล่มๆปนกับเสียงทู้ๆออกมาแทน หรือถ้าแย่สุดๆเสียงเหมือนเคาะสายสปริงในตู้เสื้อผ้า ราคาไม่ต้องพูดถึงครับเปียโนมือสองแบบขยะเน่าๆชนิดนี้ถูกมากๆแถมต่อได้อีกเยอะๆด้วย มีบริการหลังการขายเพียบทั้งรับประกันหลายปี,จูนฟรีไม่อั้น, บางที่ผ่อนได้อีกต่างหาก เปียโนมือสองแบบขยะชนิดนี้ก็เลยเป็นที่ถูกใจคนไทยบางจำพวกที่ชอบของถูกๆต่อได้เยอะๆเป็นอย่างยิ่ง ลองคิดดูให้ดีเมื่อซื้อเปียโนมือสองราคาถูกๆ, มีการประกันจำนวนปีมากๆ(ของใหม่เขายังประกันแค่ปีเดียว), มีบริการจูนฟรีจำนวนครั้งเยอะๆ(ของใหม่เขาจูนให้ฟรีแค่ 3 ครั้งเอง)พวกพ่อค้าเก็งกำไรก็ต้องลดคอร์สต้นทุนสินค้าให้มากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกัน ท่านก็จะได้เปียโนมือสองแบบขยะ 1 ใน 90% ที่หมดสภาพเปียโนที่ดีไปแล้วอย่างเติมขั้นเนื้อๆไปฉะนี้เอง พวกเปียโนมือสองผมได้แบ่งออกเป็น 3 Grade ลองคลิกอ่านดูนะครับ. นอกจากเปียโนมือสองแบบขยะที่มีการนำเข้ามามากที่สุดแล้วยังมีเปียโนมือสองอีกชนิดนึงที่พวกร้านเปียโนบางร้านอ้างว่าดีนักหนานั่นก็คือเปียโนมือสองที่ Recondition มาจากเมืองนอก ผมอยากจะให้ฟังตัวอย่างเสียงเปียโนมือสองยี้ห้อดังหลังนึงที่ Recondition มาจากเมืองนอกมีสติ๊กเกอร์แปะไว้ที่ฝาด้านหน้า (Top Front Panel) ของเปียโนเขียนว่า "This piano is Reconditioned by ........ of ........," เปียโนมือสองหลังนี้เป็นรุ่นที่มีคุณภาพดีสุดของ Upright Piano ฝาเปิด-ปิดคีร์ (Fallboard) เป็นแบบหน้าแกรนด์เปียโน(เป็นทรงตั้งฉากทำให้ผู้เล่นสามารถเห็นตำแหน่งมือของตัวเอง (Hand Position) จากภาพสะท้อนได้เหมือนเล่นแกรนด์เปียโน)ที่ฝาด้านหน้า (Top Front Panel) เป็นแบบครอสบอดี้(คือฝาตรงกลางสามารถดึงออกมาวางโน้ตเพลงได้หลายๆแผ่น)ราคาที่ขายในเมืองไทยตอนนี้ประมาณ 2 แสนกว่าบาทนะครับ ผมดูจากสภาพกลไกภายในและบอดี้ภายนอกทุกอย่างยอมรับว่าของนอกเขา Recondition มาได้ดีมากเหมือนของใหม่เลยที่เดียว แต่พอเขา Test เสียงและเล่นเพลงให้ฟังเท่านั้น...เฮอะๆ...ลองฟังเสียงดูครับ คน Test เขาไม่กล้าออกแรงในการเล่นมากนักเดี๋ยวอาการเจ็บป่วยของเครื่องจะกำเริบให้ได้ยินเสียงห่วยๆชัดกว่านี้ ผมเดาได้ว่าเปียโนมือสองหลังนี้น่าจะโดนเล่นมาอย่างสมบุกสมบันหรืออาจจะเป็นเครื่องใช้สอนในร.รจนหมดสภาพแล้วโล๊ะออกมาขายถูกๆก็ได้เพราะเสียงเปียโนมือสองตรงตำแหน่งที่ใช้เล่นมากที่สุดคือเสียงกลางกับเสียงสูง (Middle Section, Treble Section) เสียงออกแหลมเหน่อๆแบบกระด้างๆหมดแล้วเหลือแค่ส่วนที่เป็นเสียงต่ำ (Base Section) เท่านั้นที่ยังพอฟังได้สังเกตได้ว่าผู้เล่นพยายามกดคีร์เสียงต่ำให้ฟังบ่อยๆเพื่อเป็นการกลบเสียงกลางกับเสียงสูงที่ห่วยๆให้ได้ยินน้อยที่สุด แต่หลอกผมไม่ได้หรอกครับนี่ถ้าให้ผมตีสภาพเป็นเปอร์เซ็นน่าจะดีกว่า Grade C หน่อยนึงคือให้ Grade B สภาพ 71 % เท่านั้น ถ้าใครคิดว่าเปียโนมือสอง Recondition จากนอกดีจริงเครื่องช้ำๆแบบนี้ Recondition กลับมาต้องให้ได้เสียงและสัมผัสประมาณนี้ลองฟังเสียงดูครับผมถึงจะยอมรับว่าเปียโนมือสองหลังนี้ Recondition จากนอกใช้ได้ครับ ฉะนั้นอย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่าถ้าตัวเปียโนมือสองบางหลังที่สภาพซาวบอร์ดไม่ค่อยดีแล้วก็ยากที่จะเอามา Recycle, Rebuild, Recondition, Regulation, Repair, Re...ใช้ชื่ออะไรหรูๆจากที่ไหน(เพื่อแหกตาลูกค้า)ก็แล้วแต่ก็ไม่สามารถเอาเสียงและสัมผัสของมันกลับคืนมาอย่างเดิมได้ นี่ขนาดเปียโนมือสอง Reconditioned จากนอกเลยนะครับ นั่งหลับตาฟังเสียงที่แรกคิดว่ากำลังตีขิม, ดีดจะเข้อยู่อ่ะ...ฮ่าาา...ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า. การเลือกเปียโนมือสองที่ดีดูเหมือนง่าย(บางคนให้อ.ที่สอนอยู่เลือกให้ก็จบ)แต่ถ้าดูกันจริงๆแล้วยากมากครับผมกล้าพูดเลยว่าครูเปียโนด้อยประสบการณ์บางท่านเลือกไม่ได้ อย่าลืมนะครับว่าของมือสองคือของที่มันใช้แล้วต้องดูสภาพสินค้าว่าเจ้าของเดิมเขาใช้มาอย่างไรยิ่งเป็นเปียโนมือสองต้องเอาคุณภาพเสียงและสัมผัสตามหลักวิชาการเป็นหลักก่อนเรื่องอื่นว่ากันทีหลัง ถึงแม้จะมีราคาสูงหน่อยประกันปีเดียวจูนฟรีแค่ 3 ครั้งก็คุ้มค่าครับ ถ้าเลือกไม่เป็นผมยินดีบริการให้ครับไม่ต้องไปเสียค่าน้ำมันไปดูตามโชว์รูมหรอกครับ บางแห่งตอนจะขายพูดอย่างขายไปแล้วเป็นอีกอย่าง โน้นตัวอย่างมี YAMAHA MX100MR '1989-1990' เจ้าของเปียโนโดนฟันไปสองแสนห้าบอกประกัน 3 ปีพอจะขอใช้บริการโทรไปแจ้งก็บอกว่าจะโทรกลับมาแล้วก็เงียบครับ! (พอดีผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเพราะต้องไปดูสภาพเครื่อง)รออยู่นานก็ไม่โทรกลับมาซักทีเจ้าของเปียโนก็เลยโทรไปแจ้งอีกก็พูดอย่างเดิมอีกหลายครั้งเข้ากว่ามันจะโทรกลับมา กว่าจะคุยกันรู้เรื่องตกลงต้องเสียค่าซ่อมบวกค่ารถช่างเข้าไปอีกต่างหากอ้างว่าบ้านอยู่ไกลโดยพูดแบบกำปั้นทุบดินไปเลยว่าที่ประกัน 3 ปีเป็นประกันจูน(มีอย่างงี้ด้วย)ถ้ามีอย่างอื่นเสียต้องจ่ายค่าซ่อมต่างหาก(ไรฟ่ะ! นี่ถ้าไม่ได้ยินเขาคุยกันกะหูคงไม่เชื่อ) เจ้าของเปียโนรายนี้เลยเสียความรู้สึกอย่างแรงก็มาฝากผมขายทิ้งถูกๆคุณอยากเป็นรายต่อไปไม๊? ที่จะต้องเจอกับร้านเปียโนมือสองแบบนี้ ถ้าไม่อยากเจอให้ผมจัดให้หมดปัญหาครับ. ใช้ว่าจะมีแต่เปียโนมือสองแบบขยะเน่าๆกับเปียโนมือสองห่วยๆ Recondition จากนอกที่เกลื่อนเมืองไทยอยู่ตอนนี้อย่างเดียว ยังมีเปียโนมือสองอีกประเภทหนึ่งนำเข้าจากต่างประเทศที่มีคุณภาพดี 70-80% อายุการใช้งานน้อยไม่ช้ำมากอยู่ในกลุ่มเปียโนมือสอง Grade B เมื่อนำมา Recondition และทำ Regulate ใหม่จะให้คุณภาพเสียงที่ดีมากแทบไม่ต่างจากเปียโนใหม่ดีไม่ดีเสียงไพเราะกว่าด้วยเพราะตัวที่ให้เสียงดังกังวาล (Soundboard) เข้าที่แล้ว แต่น่าเสียดายที่มีการนำเข้าเปียโนมือสองชนิดนี้ไม่มากนักมีเพียงบางร้านเท่านั้นที่กล้านำเข้ามาเพราะมีราคาพอสมควร(แต่ก็ยังถูกกว่าของใหม่มาก)มีการรับประกันและจูนฟรีที่เหมาะสม ท่านที่ต้องการเปียโนมือสองแบบซื้อที่เดียวจบ อันนี้ขอแนะนำว่าควรเลือกซื้อแบบ Grade B จะดีที่สุดถ้าสนใจผมจัดหาให้ได้ครับ ส่วนเปียโนมือสอง Grade A ที่ถือว่าเป็นสุดยอดเปียโนมือสองที่ดีที่สุด ถ้าอยากได้ต้องคอยเข้ามาเช็คที่เว็บไซต์นี้บ่อยๆนะครับเพราะนานน๊านนน...จะมีผู้ปกครองเอามาฝากขายซักหลังนึง. ที่จริงแล้วอายุการใช้งานของเปียโนไม่ใช่แค่ 5 ปี, 10 ปี, 25 ปีอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ เปียโนบางหลังที่ถูกเก็บรักษาอย่างดีอายุการใช้งานมากกว่านั้นตัวอย่างเช่นหลังนี้ ลองฟังเสียงดูครับ อายุร้อยกว่าปีฟังเสียงแล้วจะทึ่ง คน Test เขาเล่นให้ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน(ไม่ใช่เล่นแบบกลัวเครื่องเจ็บเหมือนเปียโนมือสองห่วยๆ Recondition จากนอก) เชื่อได้ว่าคนที่ผลิตเปียโนหลังนี้คงไม่อยู่แล้วแต่เปียโนหลังนี้ยังคำรามกึกก้องอยู่ ต้อง Professional เลือกให้เท่านั้นถึงจะได้ของดีนะครับ ใครที่ติดแต่ความเชื่อที่งมงาย, ติดแต่รูปลักษณ์ภายนอกสวยๆ, ติดแต่ Serial Number หลายๆล้าน, ติดแต่เชื่อครู(ด้อยประสบการณ์บางท่าน), ติดแต่จะเอาราคาถูกๆ, ติดแต่เรื่องของแถมมากๆ, ติดแต่จะเอาประกันหลายๆปี, ติดแต่จะเอาจูนฟรีหลายๆครั้งอย่าหวังจะได้เปียโนดีๆไปเชยชมเลยนะครับ แต่ถ้าจะซื้อเอาแบบไปตั้งโชว์ไม่ต้องเล่นก็อีกเรื่องนึง ฉะนั้นถ้าอยากจะได้เปียโนมือสองดีๆก็ต้องปรึกษากับมืออาชีพครับ อย่างตอนนี้ผมแนะนำให้หลังหนึ่งเจ้าของเขาขายเองลองฟังเสียงดูนะครับ. จำไว้ให้ดีนะครับ"ของดีย่อมมีราคา"เปียโนมือสองที่ผมเลือกให้ราคายุติธรรมไม่แพงใช้งานได้อีกนาน รับรองด้วยประสบการณ์การเล่นเปียโนมา 20 กว่าปีไม่ถูกใจยินดีคืนเงินครับ ที่นี่ผมเน้นขายผ่านทางเว็บไซต์ไม่ต้องห่วงเรื่องรับเงินแล้วหนีเพราะโดเมนผมมีที่อยู่แน่นอนตามตัวได้เลย แล้วผมก็ไม่คิดจะทำอย่างนั้นด้วยถ้าไม่เชื่อก็ลองถามลูกค้าที่เคยมาซื้อสินค้ากับผมได้ว่าเป็นอย่างไร รับเงินแล้วหนีหรือเอาของไม่ดีมาให้หรือเปล่า ผมอยู่วงการนี้มาเกือบ 30 ปีตั้งแต่เริ่มเรียนอิเลคโทนกับสยามกลการเมื่อปี 26 จบเมื่อปี 28 เริ่มเล่นเปียโนควบคู่กับอิเลคโทนตั้งแต่ปี 30 จนสามารถสอบเกรดครูได้(Grade 5)ปี 31,แข่งจนได้แชมป์ประเทศไทย,ได้รองแชมป์เอเซียปี 33,สอบเกรดครูได้ถึง Grade 4 ปี 40 ตามลำดับเป็นครูสอนดนตรี, เป็น Demonstrator ระหว่างปี 31-35 สาธิตเครื่องดนตรียามาฮ่ามาเกือบทั่วประเทศและยังรับเล่นดนตรีให้กับฝ่ายจัดแสดงของบริษัทตามงานเลี้ยงสังสรรค์ตอนกลางคืนอีกด้วย. ตลอดชีวิตการเรียนและทำงานของผมๆเล่นแต่เครื่องดนตรียามาฮ่ามาตั้งแต่ต้นจนถึงทุกวันนี้อย่างโชกโชนแบบชนิดว่ากินนอนอยู่กับเครื่องเลยทีเดียวทั้งอิเลคโทนและเปียโนผมมีหนังสือเปียโนเล่มหนึ่งที่ผมซื้อไว้ใช้ฝึกฝนนิ้วมือทั้งสองข้างตั้งแต่ปี 30 ปัจจุบันนี้ผมก็ยังใช้อยู่ดูสภาพเอาก็แล้วกันว่ามันเก๋ากึ้กขนาดไหน(หนังสือรุ่นนี้หาซื้อแทบไม่มีแล้วครับเพราะรุ่นใหม่ๆจะหนาเทอะทะมาก)ถ้าผมจะนับรวมๆเวลาจริงๆตั้งแต่เริ่มเข้าวงการนี้ก็เกือบ 30 ปีนะครับ ผมบอกว่าผมมีประสบการณ์เล่นเปียโนมา 20 กว่าปีผมมีหลักฐานยืนยันประวัติความเป็นมาให้ดูได้ แต่พวกร้านเปียโนขี้ตู่บางร้านที่เห็นคนอื่นเค้าเขียนว่ามีประสบการณ์เปียโนมา 20 กว่าปีตัวเองมีประสบการณ์แค่หางอึ่งก็คุยโม้ว่ามีประสบการณ์เปียโนมา 20 กว่าปีเหมือนกันกลับหาหลักฐานมายืนยันประว้ติความเป็นมาของตัวเองไม่ได้ ซึ่งความจริงในยุคเมื่อ 20 กว่าปีก่อนนั้นในเมืองไทยมีร้านที่นำเข้าเปียโนมือสองจริงๆไม่กี่รัานนะครับนับได้เลยโดยเช็คจากประวัติความเป็นมาของร้านนั้นเหมือนเช็คประวัติความเป็นมาของตัวผมถ้าของแท้จะมีหลักฐานให้ดูครับถ้าคุณเดินเข้าไปในร้านเปียโนบางร้านที่คุยโม้ว่าผมอยู่ในวงการนี้มีประสบการณ์เปียโนมา 20 กว่าปีแล้ว คุณลองย้อนถามเขากลับไปว่า"ขอดูประวัติความเป็นมาของคุณและร้านคุณเรื่องเปียโนหน่อยซิ"...เฮอะๆ..แล้วคุณจะเห็นธาตุแท้ของพวกร้านเปียโนขี้โม้บางร้านเหล่านี้นะครับว่าคุยกันไม่ทันไรก็เริ่มหลอกกันซะแล้ววววว. สุดท้ายนี้สรุปว่าการเลือกซื้อเปียโนมือสองต้องนึกถึงคุณภาพของเสียงมาเป็นอันดับ1 คือคุณต้องชอบเสียงของมันก่อนว่าแบบนี้มันใช่เลยสำหรับตัวคุณไม๊(เปียโนที่ดีเมื่อกดที่คีร์ตัวไหนต้องเป็นเสียงโน๊ตตัวนั้นและต้องมีเสียงที่ชัดเจนแบบนุ่มนวลแต่หนักแน่นอย่างมีพลังกังวาลไกลกระจายไปอย่างสม่ำเสมอ) ต่อมาก็สัมผัสเป็นอันดับ2 คือเล่นแล้วชอบใน Touching ของคีร์ที่กดไม๊ ต่อมาค่อยมาคุยกันเรื่องราคาและบริการหลังการขายครับและต้องซื้อกับร้านเปียโนที่เป็นมืออาชีพมีประสบการณ์เรื่องเปียโนจริงๆมานานๆ(หลายๆสิบปีขึ้นไป)เขาจะมีหลักฐานยืนยันประวัติความเป็นมาให้ดูได้อย่างแน่นอนเพราะเปียโนต้องมีการดูแลตลอดอายุการใช้งานครับ ในวงการนี้คุณซื้อเปียโนที่ไหนต้องใช้บริการที่นั้นถ้าคุณเจอร้านเปียโนที่ไม่ดีต้องไปใช้บริการที่ร้านอื่นโดนฟันครับจำเอาไว้...หริอบางร้านแค่เบาะๆพอหมดประกันเท่านั้นเรียกช่างมาจูนเสียงหน่อยโดนฟันค่ารถช่างหัวแบะยังไม่รวมค่าจูนอีกต่างหากครับ ฉะนั้นบทความนี้ผมเขียนด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมการเล่นเปียโนมา 20 กว่าปีเจอตั้งแต่เปียโนใหม่สุด-เก่าสุดจนถึงหมดสภาพทั้งสังเกตและเล่นทดสอบมาโดยตลอดโดยเฉพาะของยามาฮ่าเนี่ยเรียกว่ากินนอนกับเครื่องมาเลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงยี้ห้ออื่นๆที่ไปเจอะเจอตามร้านตามบ้านลูกค้าที่เขาให้ไปทดสอบอีกนับไม่ถ้วน หากคุณต้องการเปียโนมือสองที่ดีซักหลังหนึ่งต้องการมืออาชีพเลือกให้โทรมาปรึกษาได้ครับ. |
|
|
|
|
Copyright © เปียโนมือสองยามาฮ่า 1 July 2016 All Right Reserved
|